Thailand

สารบัญ

รัฐบาลกำลังส่งเสริม Digital Valley ของประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์บ่มเพาะเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ เพื่อดึงดูดผู้นำใหม่ๆ

รัฐบาลกำลังส่งเสริม Digital Valley ของประเทศไทย ศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัล ศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพ และเทคโนโลยี EECd ซึ่งจะดึงดูดสตาร์ทอัพรายใหญ่และนักลงทุนรายใหญ่ทั้งในประเทศและทั่วโลก กระตุ้นเศรษฐกิจไทย ณ ศูนย์ดิจิทัลแห่งภูมิภาคอาเซียน

23 กันยายน 2565 ณ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ทิพนันท์ ศิริชานา รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล การสร้างคุณค่าและโอกาสให้กับประเทศไทย หนึ่งในองค์กรที่ขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลคือ Depa Thailand หรือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล นำโครงการสำคัญในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของ EEC Digital Valley แห่งประเทศไทย เพื่อแสดงนวัตกรรมของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือ DEPA กระทรวงดิจิทัลและสังคมในเทคโนโลยี ในการสร้างนิทรรศการที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการอิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 21 ถึง 23 กันยายน พ.ศ. 2565 ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุน ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ผู้บริหารหลายคน

ทิพานันท์กล่าวว่ารัฐบาลไทยมีนโยบายที่ชัดเจนเสมอมาเกี่ยวกับ Digital Valley ของประเทศไทยในฐานะศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ในประเทศเพื่อดึงดูดสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีและบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก เราแบ่งปันเครื่องมือในพื้นที่ของ EECd เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล ตั้งอยู่ในศูนย์กลางโทรคมนาคมของอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในส่วนขยายเดียวกับ GISTDA ซึ่งเป็นเกตเวย์อินเทอร์เน็ต CAT แบบใยแก้วนำแสง เป็นพื้นที่ที่ได้เปรียบ ระหว่างทางสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลในภูมิภาค ปัจจุบันมีบริษัทชื่อดังขนาดใหญ่ที่เช่าพื้นที่สำหรับศูนย์วิจัยดิจิทัล

โครงการ Thailand Digital Valley มีพื้นที่ 30 ไร่ แบ่งเป็น 5 อาคาร ได้แก่ 1. ก่อสร้างอาคาร DEPA Digital One Stop Service เสร็จเรียบร้อย 2. Digital Startup Knowledge Sharing Center 3. Digital Innovation Center หรือ IoT 2 Innovation Building 4. IoT Digital Educational Entertainment Complex Building 3 Innovation Building 5 Go Global Digital Hub Building IoT Innovation Building 4

หากคุณมีสินค้าแต่ไม่รู้จะขายที่ไหน มาขายในลาซาด้า เปิดร้าน!
ผู้ขาย

คุณทิพานันท์ยังกล่าวอีกว่านอกจากการสร้างเครื่องมือและห้องปฏิบัติการแล้ว โครงการนี้ยังรวมถึงการทดลองต่างๆ นักลงทุนมีแรงจูงใจที่จะรักษาผลกำไรของบริษัทที่ดำเนินงานในภูมิภาคนี้ รวมถึงการลดภาษีเงินได้สำหรับบริษัทที่ตั้งอยู่ในกระทรวงศึกษาธิการ ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการทำงานในบริษัทต่ำกว่า 17% รับ SMART VISA หรือวีซ่าประเภทพิเศษเพื่อดึงดูดบุคลากรและนักลงทุนที่มีคุณสมบัติสูงที่ต้องการทำงานหรือลงทุนในอุตสาหกรรมของประเทศ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อสอดคล้องและสนับสนุนธุรกิจดิจิทัล

“โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567 เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะดึงดูดบริษัทดิจิทัลรายใหญ่ ภาคเอกชน และนักลงทุนรายใหญ่ทั้งในประเทศและทั่วโลก พัฒนาภูมิภาคยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยต่อไป” นายทิพนันท์กล่าว